Sunday, July 18, 2010

โมโรเฮยะ

โมโรเฮยะ เป็นพืชเมืองร้อน แต่เดิมเป็นพืชป่า รู้จักกันดีตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะในประเทศอียิปต์ ถือเป็นผักที่เสริมสุขภาพ ได้มีผู้ขนานนามว่า ผักชาวัง ปอโมโรเฮยะ เป็นปอกระเจากินใบ มีลักษณะคล้ายปอกระเจาฝักขาว แต่มีขนาดใบ ดอก และเมล็ดเล็กว่าพันธุ์ปอกระเจา ที่ปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะทั่วไป ลำต้นและใบมีสีแดง แตกกิ่งมาก ไม่มีหนาม สูงประมาณ 1-2 เมตร ใบสีเขียว ยาวรีคล้ายใบพู่ระหง ออกดอกเมื่ออายุ 70-80 วัน เจริญเติบโตเร็วและแตกกิ่งมากกว่าปอกระเจาพันธุ์อื่น โดยเฉพาะในดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว และดินในภาคตะวันออก เฉียงเหนือ

ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น สถาบันวิจัยพืชไร่ กรมวิชาการเกษตร ได้ทำการสำรวจและศึกษาการผลิตใบปอโมโรเฮยะของ เกษตรกรที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ได้รับการชี้แจงเกี่ยวกับสรรพคุณจาก นายไกรเลิศ ทวีกุล ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสานบ้านไผ่ ระบุว่าปอโมโรเฮยะ มีสรรพคุณช่วย ชะลอความชรา มีผลยับยั้งมะเร็ง แก้โรคเบาหวาน แก้ท้องผูก รักษาโรคกระเพาะลำไส้ ความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ โรคโลหิตจาง บรรเทาอาการอ่อนเพลีย กินเป็นประจำจะช่วยผิวสวย คุณสมบัติพิเศษอีกประการหนึ่ง คือ มีสรรพคุณเหมือนกับยาโด๊ปยี่ห้อดัง นับว่า เป็นผักเสริมสร้างสุขภาพ นิยมนำมาบริโภคโดยปรุงเป็นซุปต่าง ๆ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น นำไปปลูกและศึกษาจนพบว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง

การปลูกและการดูแลรักษา ไม่ค่อยยุ่งยากอะไร หลังจากไถดินและกำจัดวัชพืชแล้ว ให้ยกแปลงกว้าง 1.2 เมตร สูง 6-10 เซนติเมตร ยาวตามพื้นที่ ใส่ปุ๋ยกระดองปูรองพื้นก่อนปลูกอัตรา 1 กิโลกรัม/ตารางเมตร หลุมปลูกลึกประมาณ 1 นิ้ว ระยะปลูกระหว่างต้น 30-50 เซนติเมตร ระยะระหว่างแถว 70 เซนติเมตร หยอดเมล็ดหลุมละ 5-7 เมล็ด กลบหลุมบาง ๆ ประมาณ 1-2 เซนติเมตร เมื่อเมล็ดงอกโรยยากันรา ป้องกันโรครากเน่า เมื่อมีใบจริงออกมา 5-10 ใบ ถอนแยกให้เหลือหลุมละ 3 ต้น เมื่อเห็นว่าต้นมีความแข็งแรงดีแล้ว หรือเมื่อมีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตรให้ถอนอีกครั้งเหลือหลุมละ 1 ต้น ในช่วงที่มีใบจริง 5-6 ใบ ควรใส่ปุ ยไนโตรเจนเพื่อเร่งให้ มีการเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ เมื่อมีความสูง 50-60 เซนติเมตร ให้ตัดยอดลงมาประมาณ 15- 20 เซนติเมตร เพื่อกระตุ้นให้แตกกิ่งแขนงด้าน ข้าง รวมทั้งควรกำจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ยกระดองปู-ปุ๋ยเคมี เร่งอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้การเจริญเติบโตทาง ลำต้นและใบ

การตัดแต่งกิ่ง เนื่องจากปอชนิดนี้เป็น พืชปีเดียว การตัดแต่งกิ่งควรเริ่มตั้งแต่ช่วงอายุ 2 เดือนไปจนถึงการปลูกรอบใหม่ จะทำให้ใบสดงอกงามและเก็บผลผลิตได้มากขึ้น การเก็บห่างกันประมาณ 2 เดือน รอบหนึ่งจะเก็บได้ 4 ครั้ง โดยเก็บใบได้ 3 วิธี คือ 1. เก็บใบสดจากลำต้น 2. ตัดกิ่งหรือลำต้นแล้วเก็บใบสด และ 3. ตัดกิ่งและลำต้นแล้วเก็บใบสด สำหรับวิธีที่ง่ายที่สุดคือวิธีที่ 2 โดยเมื่อเก็บใบสด 1 กิโลกรัมนำมาตากแดดประมาณ 1-2 วัน จะได้ใบตากแห้งหนัก 200 กรัม ใบสด 7 ต้น จะได้ใบสด 1 กิโลกรัมขายได้กิโลกรัมละ 30 บาท พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 4,600 ต้น เมื่อเก็บใบสดจะได้ 657 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน 19,700 บาทต่อไร่

การทำชาปอ เมื่อเก็บใบสดแล้ว นำไปล้างน้ำสะอาด 2-3 ครั้งแล้วนำมาผึ่งในตะแกรงให้แห้งพอหมาด ๆ จากนั้นนำใบปอมาวางซ้อนกันพอประมาณ หั่นใบปอให้มีขนาด 1-2 เซนติเมตร นำไปคั่วในกระทะใช้มือนวดใบปอแรงด้วยไฟอ่อน เพื่อให้เซลล์ ใบปอแตกจนใบแห้งกรอบโดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที หากมีเครื่องอบให้อบอุณหภูมิที่ 70 องศาเซลเซียส ภายใน 1 ชั่วโมงแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นบรรจุถุงปิดผนึกจะสามารถเก็บไว้ได้นาน ข้อควรระวัง หากคั่วใบปอในกระทะให้ระวังอย่าให้ไหม้ และอย่าคั่วครั้งละมาก ๆ รวมทั้งในช่วงที่ปลูกอย่าฉีดพ่นสารเคมีโดยเด็ดขาด

No comments:

Post a Comment